ลัทธิโยเร คืออะไร สำหรับคนที่เป็นหนึ่งในสาวกของลัทธิก็จะมีการแบ่งระดับตั้งแต่เริ่มแรกด้วยการอยู่ในคำสอนและการปฏิบัติอย่างถูกต้อง จึงจะถูกแบ่งระดับออกมาอย่างเหมาะสม แน่นอนว่าผู้ที่ทำตามในปัจจุบันในประเทศไทยเกี่ยวกับลัทธินี้ก็มีสูงมากพอสมควร เพราะฉะนั้นเราจะพาทุกคนไปรู้จักตั้งแต่จุดเริ่มต้นของผู้ศรัทธาในรัฐที่นี้กัน เริ่มจากผู้ก่อตั้งที่หลายๆ คนจะต้องสงสัยกันอย่างแน่นอนว่าเขาเป็นใครกัน ซึ่งผู้ก่อตั้งลัทธิโยเร ก็คือ โมกิจิ โอกาดะ ชาวประเทศ Japan เริ่มต้นก่อตั้งลัทธิเมื่อปี 2478 เป็นความเชื่อมาจากทาง ลัทธิชินโด เป็นศาสนา พุทธนิกายมหายานโดยใช้การ ผสมผสานกันกับหลักจริยธรรมตามสากล ลัธินี้ก่อตั้งมานานเกือบ 100 ปีแล้วก็ว่าได้ แต่ถึงแม่ลัทธินี้จะก่อตั้งจากชายชาว Japan แต่ก็ไม่ได้รับความนิยมในประเทศสักเท่าไหร่ นอกจากนี้ทางประเทศ Japan ก็ได้ออกมาเตือนว่า ลัทธินี้เป็นอันตรายเพราะถือว่าเข้าข่ายการใช้ความเชื่อแบบล้างสมองทำให้ลัทธินี้ไม่ได้รับความนิยมสักเท่าไหร่ นอกจากประเทศญี่ปุ่น ที่ออกมาเตือนแล้วก็ยังมีอีกหลายประเทศที่ถือว่า ลัทธิโยเรนี้เป็นอันตรายต่อคนให้ประเทศของหลายประเทศโดยเฉพาะฝั่งประเทศยุโรปก็ต่างเฝ้าระวัง
และได้เข้ามาสู่ประเทศไทยเริ่มเผยแพร่เมื่อปี 2511 การเข้าประเทศไทยมาครั้งนี้ผ่านการเผยแพร่จาก คาซูโอะ วากูกามิ นอกจากการเผยแพร่ลัทธิแล้วเขายังตั้งรากฐานในประเทศไทย โดยมีการจดทะเบียนและตั้งโรงเรียนในประเทศไทย มีจดทะเบียนอย่างถูกต้องตามกฎหมายในชื่อว่า มูลนิธิบำเพ็ญสาธารณะประโยชน์ด้วยกิจกรรมทางศาสนา เขาเริ่มสร้างจนมีสำนักงานแห่งแรกตั้งอยู่ที่ ถนนสุรวงศ์ ในจังหวัดกรุงเทพมหานคร ในประเทศไทย ทำให้เพิ่มความน่าเชื่อถือในลัทธิโยเร นอกจากตั้งศุนย์ใหญ่แล้ว พอเริ่มมีคนศรัทธา เขาก็เริ่มผลิตเครื่องราง ของขลังออกมาจำหน่ายให้แก่คนที่ นับถือและศรัทธาในลัทธิ จนกลายเป็นที่รู้จักมากขึ้น แต่ที่ทำให้คนไทยรู้จักกันมากขึ้นก็คงจะมาจากเหตุการณ์ที่หลายคนจบชีวิต เพื่อลัทธินี้เลยกลายเป็นคำถามที่หลายคนสงสัย ว่าลัทธินี้ คืออะไรมาจากที่ไหนกัน ทำไมคนที่ศรัทธาถึงยอมที่สละชีวิตตามคำสอนต่างๆ วันนี้เราก็มีความรู้เกี่ยวกับลัทธิโยเรมาฝากให้ทุกคนได้ลองศึกษาและทำความรู้จักกัน อย่ารอช้าเราไปทำความรู้จักกันเลย
การเข้าเป็นสาวกของ ลัทธิโยเร คืออะไร
แน่นอนว่าการเข้ามาใน ลัทธิโยเร และเป็นผู้ศรัทธาเป็นเรื่องที่ไม่ได้ยุ่งยาก คุณจะต้องทำการซื้อสัญลักษณ์ของ ลัทธิเปล่งรัศมี การรับเหรียญเสียก่อน คนไทยส่วนใหญ่มักจะเรียกว่าเป็นพิธีการรับพระอะไร ประมาณนี้ ซึ่งจะมีค่าใช้จ่ายอยู่ประมาณ 1,000 – 3,000 บาท เพียงแค่ 1 ครั้ง หลังจากนั้นก็ต้องเข้าหลักสูตรการอบรมทางด้านศาสนา ราวประมาณเวลา 2 – 3 วัน เมื่อผ่านการเข้าอบรมเหล่านี้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว คุณก็จะได้รับการยอมรับว่าเป็นคนในลัทธิและ เข้าไปเป็นศาสนิกโดยสมบูรณ์ นอกจากนี้ยังมีการเสียค่าเข้าเป็นสมาชิกครั้งแรก 100 บาทส่วนค่าสมาชิกรายปีอีก 150 บาทต่อปีอีกด้วย เป็นค่าใช้จ่ายพื้นฐานก่อนที่จะเริ่มต้นเข้าสู่ลัทธินั่นเอง
ระดับที่ 1 ผู้ที่เพิ่งเข้ามาใหม่ในลัทธิโยเร
ลัทธิโยเร สำหรับระดับเริ่มแรก ก็จะเป็นระดับที่มีผู้คนนั้นมักที่จะอยู่เป็นจำนวนมาก ถ้าหากยังเป็นผู้ศรัทธาที่เพิ่งเริ่มต้นใหม่และยังเข้าร่วมกิจกรรมต่างๆ ไม่ถึง 1 ปี ก็จะเป็นผู้ศรัทธาในระดับเริ่มต้นที่มีกลุ่มผู้คนส่วนใหญ่มักจะเรียกกันว่าฌานยังไม่กล้าแกร่งพอและจะมีการอบรม รวมไปถึงการเข้าสู่สถานที่ปฏิบัติกิจของลัทธิอยู่บ่อยครั้ง ผู้ที่อยู่ในกฎระเบียบอย่างเหมาะสมจึงจะได้เลื่อนขั้นมาในชั้นต่อไป
ระดับที่ 2 จะถูกเรียกว่า เซวานิน ผู้ศรัทธาขั้นที่ 2 ของ ลัทธิโยเร
สำหรับ ลัทธิโยเร ผู้ที่เข้าสู่ลัทธิมานานพอสมควรจะถูกเลื่อนขั้นจัดอันดับแรกขึ้นมาเป็นลำดับที่ 2 ส่วนใหญ่จะใช้เวลาประมาณ 1 – 2 ปี จึงจะสามารถเลื่อนระดับได้จะสามารถเพิ่มขึ้นด้วยการชักชวนผู้อื่นเข้าสู่ลัทธิหรือไม่ก็ใช้วิธีการปฏิบัติตนอย่างเหมาะสม สามารถเลือกได้อย่างอิสระสำหรับผู้ที่ต้องการก้าวผ่านจากจุดแรกขึ้นมายังจุดต่อไป
ระดับที่ 3 จะถูกเรียกว่า ไคเฮียว
ไคเฮียว ของลัทธิโยเร สำหรับผู้ที่ศรัทธามาอยู่ในขั้นนี้มักจะเต็มเปี่ยมไปด้วยคำสอนและเลื่อมใสเป็นอย่างยิ่งประมาณ 80% มักจะเป็นผู้ที่มีศรัทธาในระดับสูง นอกเหนือจากนี้ยังเข้าร่วมกิจกรรมอยู่บ่อยๆ ระยะการเข้าร่วม ณ ที่นี้สำหรับผู้ที่อยู่ในระดับนี้ประมาณ ระยะเวลาในการอยู่ในลัทธิก็จะประมาณ 2 – 3 ปี ก็จะเริ่มเข้าร่วมกิจกรรมต่างๆ มากยิ่งขึ้นและมีแนวโน้มที่จะเคร่งครัดในหลักคำสอนของลัทธิมากพอสมควรเลย คนส่วนใหญ่ก็ต่างมองเช่นเดียวกันว่าเป็นบุคคลที่น่าแตกฉาน ในคำสั่งสอนและมักจะถูกเชิญไปเป็นผู้ดูแลและผู้ที่ช่วยเหลือสมาชิกใหม่อยู่เป็นประจำ
ระดับที่ 4 ของลัทธิโยเร ภูไคอิ้น ผู้ศรัทธาชั้นสูงระดับชั้นที่พบได้ยาก
สำหรับลัทธิโยเร ลำดับชั้นนี้ ภูไคอิ้น มักจะพบเจอตัวได้ยาก จะเป็นผู้ที่มีชื่อเสียงในประเทศและต่างประเทศนอกเหนือจากนี้ก็มักจะเป็นผู้ที่มีความเลื่อมใสที่สูงเข้าร่วมกิจกรรมของลัทธิอยู่บ่อยครั้ง นอกเหนือจากนี้ก็จะมีระดับที่สูงพอสมควรและมักจะเข้าร่วมกับกิจกรรมใหญ่ๆ อยู่เป็นประจำ
ระดับที่ 5 ของลัทธิโยเร นั่นก็คือ เกียวไคโจ้ จะอยู่ในระดับผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ
เกียวไคโจ้ ส่วนใหญ่มักจะไม่ค่อยออกจากสถานที่ปฏิบัติธรรม จะเป็นระดับของอาจารย์ ของลัทธิโยเรและมักจะเป็นผู้ที่ปล่อยวางละทางโลก นอกเหนือจากนี้จะมีแนวโน้มไปทางด้านคำสั่งสอนที่ส่งต่อ ระดับนี้ต้องอยู่มานานมากกว่า 10 ปี ถือว่าหาได้ยากยิ่งอย่างแท้จริงเลยทีเดียว
พิธีกรรมของลัทธิโยเรทางศาสนา
สำหรับและที่โยเรนั้นจะมีพิธีกรรมทางด้านคาถาที่แตกต่างกว่าศาสนาอื่นๆ ตรงที่มีคาถาที่แปลและใช้งาน ในหลายภาษา เนื้อหาใจความก็จะมีดังต่อไปนี้ “ขออำนาจพระศรีรัตนตรัยและท่านเมชุซามะ ขอให้คนข้างหน้าจงมี ความสุข” และก็ยังมี “ขออำนาจบารมี คุณพระศรีอริยเมตไตรย และท่านเมชุซามะ โปรดประทานแสงทิพย์ เพื่อชำระเมฆหมอกความขุ่นมัว” เมื่อกล่าวทำเสร็จแล้วจะยกมือขึ้นเหนือศีรษะแล้ว เพ่งจิตยกมือค้างเอาไว้ประมาณ 10 – 15 นาที ทำวันละ 1 – 2 ครั้ง จะสามารถช่วยรักษาและปัดเป่าโรคภัยได้นั่นเอง
ตะลุยเจแปนต่อ >> Taluijapan
ข้อมูลอ้างอิงจาก >> ไทยรัฐ